ประเพณีแข่งเรือยาว
ความเป็นมา แข่งเรือเป็นกีฬาพื้นบ้านเก่าแก่ชนิดหนึ่งของชาวกรุงเก่าที่มีการเล่นสืบทอดกันต่อกันมาแต่สมัยโบราณ จากหลักฐานพบว่ามีการแข่งเรือกันมาแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฏในกฎมนเทียรบาลเกี่ยวกับพระราชพิธีต่างๆ ใน สมัยกรุงศรีอยุธยา ได้กล่าวถึงพระราชพิธีประจำเดือน 11 ซึ่งเป็นการอาษยุชพิธีนั้น จะมีพิธีแข่งเรือด้วย นอกจากนี้ในจดหมายเหตุลาลูแบร์ยังได้กล่าวถึงการเล่นแข่งเรือของชาวบ้านในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมักมีการพนันปะปนอยู่ด้วยและมีการละเล่นที่นิยม กันมากในสมัยนั้นทีเดียว การเล่นแข่งเรือนับเป็นกีฬาพื้นบ้านที่นิยมเล่นสืบทอดต่อเนื่องกันมาโดยตลอด แม้ใน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็ปรากฏหลักฐานว่ามีการเล่น แข่งเรือกันเป็นประจำเสมอมา เช่น ในสมัยรัชกาลที่ 2 เมื่อครั้งทรงโปรดให้ปรับปรุง ราชวัง มีการขุดสระภายในพระราชวัง ใน พ.ศ. 2361 ก็ทรงโปรดให้มีการแข่งเรือใน ครั้งนั้นด้วย ในสมัยรัชกาลที่ 5 การแข่งเรือเป็นกีฬาที่เล่นกันอย่างแพร่หลาย เมื่อมีชาวต่างชาติชมด้วย ดังปรากฏในพระราชนิพนธ์ตอนหนึ่งความว่า
เย็นวันนี้มีการแข่งนาวา
ที่กรงน่าตำหนักแพแม่น้ำใหญ่
เรือที่นั่งกราบสี่เอกไชย
มาพายให้เจ้าฝรั่งเขานั่งดู
การเล่นแข่งเรือของชาวบ้านในสมัยก่อนมีจุดมุ่งหมาย เพื่อเป็นการทำบุญ ทำกุศล คือ ชาวบ้านจะเล่นกันในเทศกาลทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ซึ่งจะอยู่ในเดือน 10-12 ซึ่งระยะนี้จะเป็นช่วงฤดูน้ำมาก ชาวบ้านที่อยู่ตามที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำจะใช้เรือเป็นพาหนะ เมื่อมีงานพิธีทำบุญจะมีการแห่แหนกันทางน้ำ เพื่อนำองค์กฐิน องค์ผ้าป่าไปยังวัดเมื่อเสร็จพิธีการทางศาสนาแล้ว ก็จะมีการเล่นแข่งเรือกัน ซึ่งถือกันว่าผู้ที่ร่วมแข่งขันจะได้บุญทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้การเล่นแข่งเรือยังเป็นการเล่นเพื่อจุดมุ่งหมายอีกประการ เช่น บางท้องถิ่นจะจัดให้มีการแข่งเรือในงานทำบุญไหว้พระประจำปีของแต่ละท้องถิ่น บางแห่งจะมีการแข่งเรือเพื่อเป็นการบรวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ บางแห่งจัดให้มีการเล่นแข่งเรือเทศกาลสนุกสนานรื่นเริงต่างๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการแข่งเรือมักจัดการเล่นกันเฉพาะในฤดูน้ำมากเท่ากัน การเล่นแข่งเรือของชาวบ้านสมัยก่อนในภาคกลาง มักจัดเป็นประเพณีประจำปี และมีการเล่นเป็นที่แพร่หลายแทบทุกจังหวัด เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ กาญจนบุรี กรุงเทพฯ จันทบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และนครสวรรค์ เป็นต้น ในปัจจุบันการแข่งเรือยังมีการเล่นกันอยู่โดยทั่วไป
การแข่งเรือยาวถือเป็นการละเล่นพื้นบ้านอีกอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ มักจะจัดขึ้นในช่วง เดือนมิถุนายน – กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีน้ำมาก โดยผู้คนในชุมชนจะช่วยกันจัดงานขึ้น มีการคัดเลือกฝีพายที่เป็นชายฉกรรจ์มาลงแข่งขัน และทุกหมู่บ้านจะต้องมีเรือเข้าแข่งขันร่วมกันด้วย
จังหวัดชัยนาท ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีการแข่งขันเรือยาว ที่สืบทอดติดต่อกันมาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และได้เลิกราไประยะหนึ่ง ปัจจุบันขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมนับเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่ง ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ในโอกาสนี้จังหวัดชัยนาทจึงได้ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงานแข่งขันเรือยาวขึ้นมาอีกครั้ง
จังหวัดพิษณุโลก เรือยาวของพิษณุโลกมี กำเนิดที่บ้านท่าโรง ตำบลวัดพริก อำเภอเมือง ทุกปีจะมี ประเพณีถวายผ้าห่มพระพุทธชินราช หลังจากห่มผ้าพระพุทธชินราชแล้วก็มีการแข่งเรือในแม่น้ำน่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เพื่อความสามัคคีระหว่างหมู่คณะ จึงสืบเนื่องมาเป็นงานประเพณีแข่งเรือยาวในปัจจุบัน บรรยากาศในพิธีเปิดการแข่งขัน เริ่มด้วย ขบวนเรืออัญเชิญถ้วยพระราชทาน ขบวนแห่กองผ้าป่าสามัคคีของทีมเรือที่พร้อมใจกันนำถวายที่วัดใหญ่ การแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครพิษณุโลกที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ ชมกองเชียร์จากชุมชนย่อยเทศบาลฯ และกองเชียร์จากทีมเรือยาวต่าง ๆ โดยการแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 10.00 น. เป็นต้นไป เรือแต่ละลำจะตกแต่งอย่างงดงาม มีการตกแต่งขบวนแห่เป็นรูปแบบต่าง ๆ เช่น ชบวนรำมังคละ ขบวนคนป่า ฯลฯ ก่อนการลงแข่งจะมีการบวงสรวงแม่ย่านางเรือ การแข่งขันเป็นแบบแพ้คัดออก และการตัดสินจะถือสุดโคนเรือเป็นเกณฑ์ โดยไม่นับเครื่องตกแต่งหัว วันที่จัดงาน: เดือนกันยายน สถานที่จัดงาน: แม่น้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
จังหวัดพิจิตร ประเพณีแข่งเรือยาวจังหวัดพิจิตร เป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดเวทีหนึ่งของการแข่งเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคกลาง เพราะมีเรือเข้าแข่งขันมาก , จัดกันมายาวนานเป็นร้อยปี และพิจิตรยังเป็นเมืองที่มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลผ่าน จึงมีน้ำหลากท่วมท้องทุ่งนาเป็นประจําในช่วงเดือน สิงหาคม – พฤศจิกายนของทุกปี วัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม จะมีเรือประจำวัดไว้ลงแข่งขัน โดยอาศัยผู้ชายในชุมชนเป็นฝีพาย ซึ่งนอกจากจะเป็นกิจกรรมสนุกสนาน ยังเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน รวมทั้งได้กุศลด้วย วัดที่อยู่ริมแม่น้ำน่าน ได้แก่ วัดสนามคลี, วัดหงสาวาส, วัดท่าฬ่อ, วัดท่าหลวง, วัดบึงตะโกน, วัดหัวดง, วัดบางมูลนาก ฯลฯ ส่วนวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม ได้แก่ วัดกำแพงดิน, วัดรายชะโด, วัดจระเข้ผอม, วัดวังจิก ฯลฯ การแข่งเรือจังหวัดพิจิตรที่โด่งดังมีชื่อเสียงที่สุด เป็นประเพณีสืบทอดจนถึงปัจจุบันคือ งานประเพณีแข่งเรือยาวของวัดท่าหลวง ที่เริ่มเมื่อประมาณ พ.ศ. 2450 ปลายรัชกาลที่ 5 โดยพระธรรมทัสสีมุนีวงศ์ (เอี่ยม) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวงและเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร จัดแข่งขันติดต่อเรื่อยมา กำหนดวันแข่งขันในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ภายหลังแม่น้ำน่านลดลงไว ไม่เหมาะแก่การแข่งเรือ จึงเปลี่ยนเป็น วันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับงานประจำปีปิดทองนมัสการหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง
ข้อมูล https://shorturl.asia/hrAiE , https://shorturl.asia/TpOVK , https://shorturl.asia/tXGwB
รูปภาพ https://shorturl.asia/HTl4G , https://shorturl.asia/vobCi , https://shorturl.asia/OG61S , https://shorturl.asia/HF9PA , https://shorturl.asia/HCWmG
ความเห็นล่าสุด