มีมหาวิทยาลัยนเรศวรในวันนี้ด้วยพระบารมีแห่งองค์ภูมิพล

มีมหาวิทยาลัยนเรศวรในวันนี้ด้วยพระบารมีแห่งองค์ภูมิพล
พระราชทานนามมหาวิทยาลัยนเรศวร

page11159

     “…ตอนที่จะขอนามมหาวิทยาลัย มีการเสนอชื่อพระบรมไตรโลกนารถ และนเรศวรอีกนามหนึ่ง นามที่ ๓ คือ มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ในที่สุดเบื้องบนก็เลือกนามนเรศวร จริง ๆ ถ้าจะให้เต็มยศต้องใช้ว่านเรศวรมหาราชด้วย…”

      คำกล่าวของ รองศาสตราจารย์สมคิด  ศรีสิงห์  อาจารย์ยุคบุกเบิก เริ่มสอนวิชาประวัติศาสตร์ในปี พ.ศ.๒๕๑๔ ในการเสวนา “เหลียวหลัง แลหน้า ๔๔ ปี : ประชาคมมหาวิทยาลัยนเรศวร” เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร

     ด้วยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นลำดับที่ ๗ ในจำนวน ๑๐ มหาวิทยาลัย...ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ มหาวิทยาลัยได้ขออนุญาตกระทรวงมหาดไทยใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์บริเวณทุ่งหน้องอ้อปากคลอกจิกเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา จากนั้นเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๒๗ รัฐบาลมีมติรับหลักการที่จะยกฐานะมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยใหม่นี้ว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๒ เพื่อสดุดีและเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ทรงคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่แผ่นดินไทย อีกทั้งยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีประสูติกาลและจำเริญวัยที่เมืองพิษณุโลก โดยกำหนดให้วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๓๓ เป็นวันกำเนิดมหาวิทยาลัย เนื่องด้วยเป็นวาระสำคัญ ครบรอบ ๔๐๐ ปีแห่งการเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

     จวบจนวันนี้เป็นเวลา ๒๗ ปีแล้วกับนามมหาวิทยาลัยอันแสนภาคภูมิใจแห่งนี้…มหาวิทยาลัยนเรศวร

พระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เอง
     พระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระดำเนินปริญญาบัตรตั้งแต่ครั้งยังเป็นวิทยาลัยวิชาการศึกษา ก่อนพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก และยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยนเรศวรในภายหลัง ดังการบรรยายของรองศาสตราจารย์วนิดา บำรุงไทย ศิษย์เก่ารุ่นที่ ๒ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการเสวนาเหลียวหลัง แลหน้า ๔๔ ปี : ประชาคมมหาวิทยาลัยนเรศวร

     “…แม้ว่าเราจะเป็นวศ.เล็ก ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระเจ้าลูกเธอเสด็จฯ มาพระราชทานปริญญาบัตร ตอนนั้นหอประชุมของเราเป็นแบบเปิดโล่ง อันที่จริงเป็นโรงอาหาร จะมีเฉพาะที่ประทับของพระองค์ท่านเท่านั้นจะได้รับความอนุเคราะห์จากห้างร้านนำแอร์มาตั้งให้ส่วนพระองค์ ซึ่งไม่ได้สะดวกสบายอะไร ด้วยความเมตตาพสกนิกรยิ่งใหญ่มาก ท่านไม่ได้มาพระองค์เดียวหรือสองพระองค์  พระเจ้าลูกเธอถ้าว่างจะตามเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีก็ตามมา เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยของเราได้รับเกียรติที่ยิ่งใหญ่ตลอด เราจะต้องสำนึกรักในเกียรติอันยิ่งใหญ่ของเรา…”

ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรแทนพระองค์

 

                        นามมหาวิทยาลัยนเรศวร                         งามเลิศล้วนชวนรำลึกถึงความหลัง

            จากวศ.มศว.สานพลัง                                         เกียรติคุณยังล้ำเลิศบรรเจิดนาม

                        วันที่ ๙ ตุลา ปี ๓๒                                  วันพรักพ้องคล้องใจให้เกรงขาม

            องค์ภูมิพลพระราชทานนาม                                 แสนงดงามนามกษัตริย์ผู้เกรียงไกร

                        ประสูติกาลจำเริญวัย ณ เมืองนี้               สองแควที่พระราชวังจันทน์จดจำไว้

            เป็นมหาอุปราชกอบกู้ไท                                       คุณูปการยิ่งใหญ่ให้ธานี

                        ๒๙ กรกฎา ปี ๓๓                                   กำเนิดนามก่อตั้งสถาบันนี้

            วันครองราชย์ครบรอบ ๔๐๐ ปี                             เป็นศักดิ์ศรีเกริกก้องพสุธา

                        ลำดับเจ็ดมหาวิทยาลัยนเรศวร                  แสนชื่นชวนภูมิใจเป็นหนักหนา

            รำลึกในพระมหากรุณา                                        น้อมวิญญาเทิดไว้เหนือชีวี

พรปวีณ์  ทองด้วง
นักประชาสัมพันธ์ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน
มหาวิทยาลัยนเรศวร
๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙