วันตรุษจีน

วันตรุษจีน
 2701604

     เทศกาลถือศีลกินเจคือปีใหม่จีนหรือวันตรุษจีนนั่นเอง และวันนี้เรามีบทความวันตรุษจีนปี ๒๕๖๐ มาฝากทั้งประวัติความเป็นมา วันจ่าย วันเที่ยว และวันไหว้

     ตรุษจีนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นงานเฉลิมฉลอง ที่สำคัญของคนจีนเพราะคนจีนเชื่อว่า วันตรุษจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาอย่างเวลานาน ดังนั้นคนจีนจึงให้ความสำคัญกับวันตรุษจีนโดยมีการหยุดงานและจัดพิธีเฉลิมฉลอง  สำหรับตรุษจีนปี ๒๕๖๐ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๘ มกราคม

2701603

ประวัติความเป็นมาวันตรุษจีน

     ที่มาของวันตรุษจีนนั้น คนจีนเชื่อกันว่าเป็นประเพณีสำคัญที่มีมาแต่โบราณ  จุดกำเนิดของตรุษจีนมีประวัติมานานหลายศตวรรษจนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองครั้งแรกมาตั้งแต่เมื่อใด  ในอดีตไม่ได้เรียกว่าเทศกาลตรุษจีนแต่มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามยุคตามสมัยและก็ไม่ได้กำหนดวันเวลาที่แน่นอน  เมื่อ ๒,๑๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราชจะเรียกว่า “ซุ่ย ”  ซึ่งจะเรียกตามความหมายของดาวปีจูเตอร์ที่นับถือกัน จนกระทั้งต่อมาในยุค ๑,๐๐๐ ปีคริสต์ศักราชให้เรียกว่า ” เหนียน “  หมายถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์   นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า  “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ”  เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุนซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว  เพราะในฤดูหนาวไม่สามารถทำการเกษตรได้  เมื่อเข้าถึงฤดูใบไม้ผลิ จึงจะสามารถเพาะปลูกพืชผักได้ตามปกติ  ชาวจีนจึงกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิตในแต่ละปีเป็นวันสำคัญที่เรียกว่า  วันตรุษจีน

     การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีนโดยผู้คนจะเริ่มออกมาซื้ออาหาร เสื้อผ้าและสิ่งต่าง ๆไปเตรียมไว้เพื่อประดับบ้านเรือนตลอดจนการทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน นอกจากนี้ยังมีประเพณีว่า ทุกครอบครัวจะทำความสะอาดบ้านเรือนตั้งแต่บนลงล่าง หน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาความโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการซ่อมแซมและทาสีใหม่ ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูกประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืน เป็นต้น

ประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ

     อาหารวันตรุษจีน  ประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ นั้นผูกไว้กับกับทุกสิ่งทุกอย่าง  ในพิธีวันตรุษจีน  อาหารค่ำประกอบด้วยอาหารทะเลและอาหารนึ่งซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างกัน เช่น กุ้ง จะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้ง หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสด จะนำมาซึ่งโชคดี  จี้ไช่  (ผมเทวดา)  สาหร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้มหมายถึงบรรพชนอวยพร

      อาหารไหว้เจ้า ในวันไหว้หรือฉลองตรุษจีนเป็นประเพณีที่จะต้องจัดเตรียมอาหารคาวหวานมากกว่าเทศกาลอื่น ๆ   อาหารชนิดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณีจะถูกจัดเตรียมให้กับบรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ได้เสียไปแล้วและในวันตรุษจีนครอบครัวคนจีนนิยมทานผักที่เรียกว่า  ไช่  เพราะชาวจีนหลายคนเชื่อว่าเมื่อทานผักชนิดแล้วชีวิตจะมีแต่เรื่องมงคลในชีวิตตามความหมายของผักนั่นเอง

นอกจากนี้มีอาหารสิริมงคลอื่น ๆ อีกเช่น

  • เม็ดบัว – หมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
  • เกาลัด – หมายถึง เงิน
  • สาหร่ายดำ – ออกเสียงคล้ายความร่ำรวย
  • เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง – ออกเสียงคล้ายความร่ำรวยและความสุข
  • ปลาทั้งตัว – เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดมสมบรูณ์
  • ไก่ – ความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์
  • เส้นหมี่ – หมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
  • หน่อไม้ – คำของมันออกเสียงคล้ายคำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่ง เป็นสีแห่งความโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์

      ทางตอนใต้ของจีน อาหารที่นิยมรับประทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ส่วนทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม  อาหารจำนวนมากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้ มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวย  ผลไม้ที่ใช้ไหว้จะนิยมเลือกชนิดที่เป็นมงคล ส้ม เรียกว่า “ไต้กิก” แปลว่า โชคดี  , องุ่น เรียกว่า  “พู่ท้อ”  แปลว่า งอกงาม สับปะรด เรียกว่า  “อั้งไล้”  แปลว่า มีโชคมาหา  ,กล้วย หมายถึงการมีลูกหลานสืบสกุล  นอกจากนี้ในกระถางธูปที่ใช้ไหว้เจ้า บางคนนิยมใส่  “โหงวจี้”  สำหรับปักธูป ประกอบด้วย เมล็ด 5 อย่าง คือ ข้าวสาร ข้าวเหนียว ถั่วเขียว ถั่วดำ และเชื้อแป้ง (ยีสต์) โดยถือว่าเมล็ดทั้งห้า คือบ่อเกิดของการเจริญเติบโต   อุปมาอุปไมยให้การไหว้เจ้านี้นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง

วันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่

     วันจ่าย หรือ เซียวตื่อเส็ก  คือวันก่อนสิ้นปี 1 วัน ใครจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะหยุดยาวเพื่อพักผ่อน ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่( ตี่จู๋เอี๊ย) ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะของเจ้าบ้าน

      วันไหว้ คือ วันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ตอนเช้ามืดไหว้ไป๊เล่าเอี๊ยเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ของเซ่นจะมี เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ได้แก่ หมูสามชั้นต้ม ไก่ เป็ด ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นได้ หรือมากกว่านั้นได้) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง

      ตอนสายไหว้ไป๊เป้บ๊อ เป็นการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเวลาเที่ยง ของเซ่นประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ล่วงลับชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะร่วมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้เพื่อสิริมงคลและถือเป็นเวลาที่ครอบครัวรวมตัวกันได้มากที่สุดพร้อมกับแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว        

      ตอนบ่ายไหว้ไป๊ฮ้อเฮียตี๋  เป็นการไหว้ผี พี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ของเซ่นจะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน  เผือกเชื่อมน้ำตาล  กระดาษเงินกระดาษทอง  พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและสิ่งอวมงคลออกจากชีวิต

      วันขึ้นปีใหม่หรือวันเที่ยว วันถือ  คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (ชิวอิก) วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน คือไป๊เจีย เป็นการไปไหว้ขอพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรักโดยนำส้มสีทองไปมอบให้จำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชายและเหตุผลที่ให้ส้มก็เพราะออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า “กา” ซึ่งไปพ้องกับคำว่าทอง  เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำความโชคดีไปมอบให้ ทำไมถึงเรียกวันนี้ว่าวันถือเพราะเป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด แต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น

      สัญลักษณ์ของวันตรุษจีน นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของวันตรุษจีน คือ อั่งเปา ซึ่งมีความหมายว่า กระเป๋าแดง หรือจะใช้คำว่า  แต๊ะเอีย ซึ่งมีความหมายว่า ผูกเอว โดยมีธรรมเนียมคือ ผู้ใหญ่ที่ผ่านการแต่งงานมาและทำงานมีรายได้แล้ว จะมอบซองสีแดง (ที่มีเงินจำนวนหนึ่งข้างใน) ให้กับเด็ก ๆ  ที่มีอายุต่ำกว่า หรือยังไม่ได้ทำงานพร้อมกล่าวสวัสดีปีใหม่

      จะเห็นได้ว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นประเพณีและพิธีกรรมที่สำคัญของคนจีนหรือคนที่มีเชื้อสายจีนมาอย่างยาวนาวจนถึงปัจจุบันและยังเป็นเทศกาลที่ผู้คนภายนอกสนใจรอดูการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และสวยงามตระการตาเป็นอย่างมาก

新正如意,新年发财

ซินเจียยู่อี่  ซินนี้ฮวดไช้

ปีใหม่ขอขอให้ร่ำรวยและสมความปรารถนาทุกประการ

 

 

น.ส. ละอองดาว   โฉมสี
นักศึกษาฝึกงานสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม
๒๗  มกราคม  ๒๕๕๙
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
Sawkitty
www.Oknation.com
www.Tlcthai.com
www.Bookings.co.th
www.Sanook.com